วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558

The Buckethead ผู้มีวันนี้เพราะน้องไก่KFC

The Buckethead ผู้มีวันนี้เพราะน้องไก่KFC

ศิลปินผู้พร้อมพร๊อบ 4 อย่าง คือ ถังKFC กีตาร์ หน้ากาก ตุ๊กตาไก่ยาง และหัวหุ่นเฮอร์บี้



"We are civilized animals, right? Then why do we continue to slaughter for sport? What if you were a Chicken, how would you feel? I grew up in a Chicken Coop and I was not a Chicken at first, until I was faced with your World!"                                                                                                                                                                                                                                                     - Buckethead

วันนี้ผมภูมิใจนำเสนอจริงๆ สำหรับศิลปิน INDYผู้นี้ที่มีความสามารถบวกกับความเป็นตัวของตัวเอง ทำให้ผมรู้จักเขาในฐานะไอดอลนิดๆ (ไม่งั้นเพลง Jordan ของพี่แกคงไม่ได้ไปอยู่ในเกม Guitar Hero ขั้น Expert ระดับ 5 stars หรอก) สำหรับศิลปินผู้นี้ที่ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าบ้าหรือโรคจิตดี แต่อย่างน้อย เสียงที่พี่แกแผดกีตาร์นั่นแสนจะ คม ลึก บาด แน่น มีความหมายโดยนัยแม้จะไม่มีเนื้อเพลง แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือ Story ของเขาก็ทำให้เราสนใจในความเป็นตัวเขา ก็แปลกยังไงน่ะเหรอ 

เริ่มเรื่องแรก  เหตุการณ์แรก 12 ตุลา 2001 ในขณะที่กลุ่มศิลปินนั่งดูข่าวที่หน้าสตูดิโอในลอสแองเจลิส พี่แกดูข่าวชาวมุสลิมในประเทศต่างๆ ที่มีการประท้วงเผา KFC เพื่อแสดงเชิงสัญลักษณ์ไม่เอาอเมริกา หลังเหตุการณ์ 911 ทำให้ศิลปินผู้นี้ที่นั่งข่าวอยู่ในสตูดิโอโมโห เพราะแม่งเผาKFC น้องไก่จ๋าที่เค้ารักจนจะสมัครเป็นทหารในกองทัพ 
อย่างอื่นเผาไป แต่มาเผาไก่กูทำไม ไม่เข้าใจ

เรื่องที่สองก็ไม่แพ้กัน ใครเป็นแฟนเพลง แม่งต้องเคยได้ยินว่า พี่แกมีเล้าไก่ในสตูดิโอของเขาเอง (เล้าไก่เนี่ยนะ??) ตอนที่ Gun N' Rose วงอันโด่งดังมาชวนทาบทามมาร่วมวง พี่แกไม่ยอมเข้า  (วงดังฉิบหาย ไม่เข้าอีก เล่นตัวไปไหน) แต่สุดท้ายก็ได้รู้มาว่า พี่แกตัดสินใจเข้าร่วมวงเพราะ พี่แกขอให้มีเล้าไก่ในสตูดิโอ (เข้าใจยากจริงๆ) จึงไม่แปลกที่หลายๆครั้งพี่แกจะเอาตุ๊กตาไก่ยางมาขึ้นเวทีร่วมฟังพี่เค้าโซโล่ด้วย หน่ำซ้ำยังพูดแทนได้ด้วย  (ฟังแล้วก็เหมือนเสียงสวดกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนะผมว่า เพราะแกอยากปลุกไก่ที่ตายไปให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งด้วยกีตาร์ไฟฟ้าที่เหมือนเครื่อง Defibrillator ไม่มีผิด
หางเครื่องแก แม่งโครตเท่ใส่ชุดนิดมีหงอนหน่อย

หยิบกูมาพูดเฉยเลย ถามกูยัง(?)


 เรื่องที่สาม พี่แกไม่เคยพูดเอง แต่ที่พี่แกพูดเป็นก็เพราะพี่แกถือเฮอร์บี้หุ่นมือ พูดแทนแกในทุกครั้งที่แกถูกสัมภาษณ์ หุ่นตัวนี้จะมีแต่หัวที่เหมือนหัวศพ สำเนียงคล้ายซอมบี้ พี่แกชอบสะสมของพรรค์นี้ด้วยแหละ เรียกว่า ชอบเป็นชีวิตจิตใจเลยทีเดียว ถึงขั้นออกเทปสอน guitar lesson กับเฮอร์บี้ด้วยครับ  แม้แต่หัวหุ่นตัวนี้ก็ยังมีตำนานคู่ขนานกันไป ไม่รู้ว่ามาจากแฟนเพลงแต่งขึ้นให้หรือไร                                                                                 
"As far as the Buckethead myth goes, Herbie was one of the evil farmers who owned the farm where Buckethead grew up. After Buckethead burned down the chicken coop, he started to get revenge on the farmers for what they did to his chicken friends. He took one of the farmers, dragged him into the barn, put his head onto a tree stump, got the axe and beheaded him. After killing the other farmer, he took all of the bones and blood out of the severed head so he could use it as a puppet" (โหดจริงๆ)

Herbie จึงเป็นสื่อกลางระหว่างเขากับแฟนเพลง
แม้แต่กระทั่งเขาเองก็ไม่เคยเปิดหน้ากากให้ใรเห็นเลย
ไม่เหมือนSlipknot ที่เปิดหน้าโชว์นอกงาน


  แฟนเพลงจึงมีสิทธิแค่เดา แต่ที่เห็นมากที่สุดคือ
เขาผู้นี้มีนามว่า 
 Brian Carroll บางตำนานก็บอกว่าที่พี่แกใส่
หน้ากากก็เพราะเคยโดยไก่ขวนหน้าไม่ก็เอาเดือยเสย (555)


 ที่ผมเคยได้ยินมา จากเพจอ่านเพลง คือพี่แกนั่นจะมีความผูกพันธ์กับไก่จ๋าของพี่แกมาตั้งแต่เด็กๆนั่นคือ พี่เค้าแม่งย้ายตัวเองไปอยู่ในเล้าไก่ของใครไม่รู้ตั้งแต่เด็กๆ (ตอนหลังผมก็เพิ่งรู้ว่าเจ้าของคือ Herbie 55555ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าบังเอิญหรือโหดร้ายดี) เพราะพี่แกคิดว่าไม่มีใครในครอบครัวเข้าใจเลยสักคน  ในเล้าไก่ก็จะมีแต่อะไรล่ะ (ก็มีแต่ไก่น่ะซิ) เขาจึงรู้สึกโดดเดี่ยวและนี่คือเหตุผลที่ได้จับกีตาร์มานั่งซ้อมทุกวันและสร้างความสัมพันธ์กับบรรดาน้องไก่ จู่ๆก็มีเจ้าของลากไก่ทั้งหมดไปฆ่า(ผมว่านี่แหละปมพี่แก) ทำให้แกโกรธมากแต่ก็นะ ทำอะไรไม่ได้ ทำได้อย่างเดียวคือบรรเลงความแค้นผ่านโน๊ตกีตาร์

สโลแกนของพี่แก

         คำถามต่อไป .. แล้ว KFC เกี่ยวอะไร?

จากเพจ อ่านเพลง(แปลจาก bucketheadland.com/story) websiteอย่างเป็นทางการของเขาเอง กล่าวว่า วันหนึ่งมีคนโยนถังไก่ทอดที่เหลือแต่กระดูกไก่เข้ามาในเล้า Buckethead เศร้ามาก เขาหยิบถังไก่ทอดนั้นพร้อมกับกีต้าร์วิ่งไปที่ป่าช้า เขาบรรเลงกีต้าร์อย่างสุดความสามารถเพื่อขอให้ภูติพรายหรือนางฟ้าช่วยไก่ผู้น่าสงสารในถังนี้ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง Buckethead เล่นกีต้าร์อยู่กลางป่าช้าทั้งคืนจนกระทั่งหมดสติไป...แต่แน่นอนว่าคำขอของเขาไม่สมหวัง

"เขาเพิ่งรู้ว่าพวกไก่ถูกนำไปทำอาหาร และไก่พวกนั้นเปรียบเหมือนในครอบครัวของเขาเขาจึงพยายามนำพวกมันกลับมาให้ได้ เขาสวมถังบนหัวเพราะเขาคิดว่ามันจะช่วยให้พวกไก่ที่ตายแล้วกลับมามีชีวิต -- ดังนั้นเวลาที่เขาเล่นกีต้าร์วิญญาณไก่ที่ตายแล้วก็เหมือนถูกบรรเลงออกมาผ่านทางนิ้วของเขา" - เฮอร์บี้หุ่นมือของ Buckethead บรรยาย.


ผมก็มีผลงาน 8 นาทีกว่าของพี่แกที่ผมอยากให้ฟังเสียงสาดกีตาร์แบบคมๆ แค่ชื่อเพลงก็.......นะ
Too Many Humans  พี่เค้าปัจเจกจริงๆ




ฟังเสร็จครั้งแรกผมก็getเลยครับว่า 
พี่จูงไก่ไปสู่สรวงสรรค์ดังที่พี่ต้องการได้หลายตัวละครับ    


       ด้วยรักและเคารพ,
       สาวกน้องไก่

ต้องขอขอบคุณ 

Youtube ที่ให้ผมฟังเพลงพี่แกได้ทั้งอัลปัม
เพจ อ่าน-เพลง ที่มาปลุกผมให้เสนอเรื่องราวของเขา และสุดท้าย
bucketheadland.com เวปทางการของพี่แก ที่ทำให้รู้ว่าผมศึกษาตำนาน